ข้างขึ้นเดือนหงาย
นานา น้า น่าน้า น่า
นานา นา นานา น้า
นานา น้า น่าน้า น่า
น้าน้า นาน่าน้านา
ข้างขึ้นเดือนหงาย
เราขี่ควายชมจันทร์
เพลิดเพลินใจฉัน
โคมสวรรค์พราวพราย (โคมสวรรค์พราวพราย)
ไขว่ห้างนั่งเฉย
เอ้อระเหยลอยชาย
เป่าขลุ่ยเพลงหนังบนหลังควาย
ชื่นพระพายโชยมา (ชื่นพระพายโชยมา)
แม้ว่าต้องการเพื่อนคุย (ชูชุบว้า)
แต่ฉันมีเจ้าทุยสนทนา (ชูชุบว้า)
พูดจาสอบถามตามประสา
ลัดเลี้ยวคันนาตามชอบใจ
สุขใจจริงหนอ
เราไม่ง้อใครใคร
เจอะนางคนรักก็รัก ไป
เป่าขลุ่ยสอดคล้องนั่งร้องไป
ขี่ควายชมฟ้าเพลินตาเพลินใจ
จันทร์แจ่มใสเต็มดวง
ฮึย
ฮึย
ฮึย
ฮึย ฮึยฮึยฮึย
นานา น้า น่าน้า น่า
นานา นา นานา น้า
นานา น้า น่าน้า น่า
น้าน้า นาน่าน้านา
ข้างขึ้นเดือนหงาย
เราขี่ควายพาควง
แต่หนุ่มชาวเมืองหลวง
พาคู่ควงเปลืองครัน (พาคู่ควงเปลืองครัน)
อยู่กรุงอยู่นา
ไอ้มันก็ฟ้าเดียวกัน
ขี่ควายขี่เก๋งก็เหมือนกัน
มันก็พระจันทร์ดวงเดียว (ก็พระจันทร์ดวงเดียว)
เขาว่ารถยนต์สบาย (ชูชุบว้า)
แต่ฉันว่าแพ้ควายแท้เทียว (ชูชุบว้า)
อยู่กรุงไปไหนให้หวาดเสียว
ปรู๊ดปร๊าดโครมเดียวเราก็ตาย
ต้นข้าวอ่อนพลิ้ว
ชูยอดริ้วเรียงราย
ค่อยชมแช่มช้อยค่อยเยื้องกราย
ขี่ควายแช่มช้าประสาควาย
อยู่นาสุขแสนเมืองแมนกลายกลาย
เดือนก็หงายพอกัน
น้าน้า นาน่าน้า นา